สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มีข่าวแจ้งที่ประชุมคณาจารย์และบุคลากรให้ทราบ 3 เรื่องดังนี้
1. ขอความร่วมมือร่วมพัฒนาการจัดอันดับของมหาวิทยาลัย Ranking
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศได้รับมอบหมายจากมหาวิทยาลัยฯ ให้ดำเนินการดูแลสนับสนุนด้านการจัดอันดับมหาวิทยาลัย ซึ่งจากการสำรวจการประชุมผู้ปกครองของนักเรียนที่มารายงานตัวพบว่า การตัดสินใจที่ส่งบุตร-หลานเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์นั้น ปัจจัยหนึ่งที่ได้รับคือมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์เป็นมหาวิทยาลัยที่มี Ranking อันดับ 1 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่มหาวิทยาลัยฯ ต้องพัฒนาเน้นการเผยแพร่ผลงานวิชาการผ่านทางเว็บไซต์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น จากเกณฑ์การประเมินของ webometrics มีการเปลี่ยนแปลงเปอร์เซ็นต์การให้คะแนนใหม่ จึงทำให้คณาจารย์และบุคลากรจำเป็นต้องพัฒนา Ranking ร่วมกันทั้งมหาวิทยาลัยฯ โดยพิจารณาจากเกณฑ์ดังนี้
- Presence (20%) ใหม่ (5%) วัดจำนวน เนื้อหาที่นำเสนอ จำนวนเว็บเพจจากเว็บไซต์ทั้งหมดที่ปรากฏบนอินเทอร์เน็ตที่อยู่ภายใต้โดเมนของมหาวิทยาลัยฯ .bru.ac.th (วัดด้วย Google) ให้คณาจารย์และบุคลากรมีเว็บไซต์ส่วนตัวให้มากขึ้น
- Impact (50%) วัดผลกระทบการอ้างอิง คือ คุณภาพของเนื้อหาที่ทำการประเมิน มีการปรับปรุงเนื้อหาเป็นประจำ จำนวนผู้เข้าใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์ จำนวนลิงค์ภายนอกที่ลิงค์มาเว็บไซต์มหาวิทยาลัย (วัดด้วย Majestic SEO (Search Engine Optimization)) ศูนย์คอมพิวเตอร์ฯ ได้พัฒนาออกแบบเว็บไซต์ใหม่ให้กับหน่วยงานทั้งหมดและให้คณาจารย์และบุคลากรได้ Update ข้อมูลได้ง่ายขึ้น
- Openness (15%) ใหม่ (10%) วัดจากแหล่งที่เก็บงาน จำนวนแฟ้มข้อมูล หรือเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่อยู่ภายในโดเมนเดียวกัน เช่น pdf, doc, docx, ppt, pptx, xls, xlsx เป็นต้น มีความโปร่งใสไม่ Copy (วัดด้วย Google Scholar) ให้คณาจารย์และเจ้าหน้าที่เขียนบทความการเรียนการสอน ผลงานของนักศึกษาและกิจกรรมการทำงานขึ้นบนเว็บไซต์ให้มากที่สุด
- Excellence (15%) ใหม่ (35%) วัดจากจำนวนบทความวิชาการและบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติที่เผยแพร่และถูกอ้างถึง (Cited papers) ในช่วงเวลาห้าปี (วัดด้วย Scimago) ให้คณาจารย์ตีพิมพ์ให้มากที่สุดและให้เกิดการอ้างถึงของบทความนั้น ๆ
จากเกณฑ์ดังกล่าว สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศขอเสนอแนะให้คณาจารย์และบุคลากรร่วมมือกันเผยแพร่ข้อมูลบนเว็บไซต์เพื่อพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ของเราให้มีผลงานวิชาการและกิจกรรมเผยแพร่บนออนไลน์สร้างชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยฯ ให้มี Ranking อันดับที่ 1 ได้โดยสิ่งต้องทำโดยเร่งด่วนคือการสร้างบทความที่มีคุณภาพเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต
โดยมีลิงก์ที่กลับมาจากเว็บไซต์อื่นๆ (Backlink) ที่เอาลิงก์ของเราไปใช้เพื่ออ้างอิงในบทความบนเว็บไซต์ หรือเป็นการแชร์เพื่อให้คนอื่นอ่านต่อ ลิงก์ประเภทนี้นับว่าเป็น Backlink ที่ดีที่สุด ส่งผลดีอย่างมากกับเว็บไซต์ของเรา และมันก็ช่วยแสดงให้เห็นว่าบทความของเรานั้นมีคุณภาพ ก็จะส่งผลต่อคะแนนที่ดีขึ้นด้วย โดยในการทำ Backlink เรามีแนวทางดังนี้
- คณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษาผลิตบทความ (บทความอะไรก็ได้) ที่มีการปรับแต่งคำรองรับระบบการสืบค้น SEO เพื่อความรวดเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ ลงในเว็บไซต์ของหน่วยงานหรือเว็บไซต์ส่วนตัวที่มหาวิทยาลัยฯ ได้อบรมให้
- ผลิต Clip วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับบทความในข้อ 1 แล้วนำไปผ่าน Youtube ให้มีการกำหนดรายละเอียดใต้คลิป โดยมีการชี้ลิงค์กลับไปที่บทความ ดังวิธีการตาม Clip สาธิตวิธีทำดังนี้คลิปวีดีโอหลังจากนั้นให้นำมาขึ้นเว็บไซต์ของหน่วยงานหรือเว็บไซต์ส่วนตัวที่มหาวิทยาลัยฯ กำหนดให้
- การนำเสนอบทความ ข่าวสาร กิจกรรมของหน่วยงานผ่าน Facebook จะต้องนำไปใส่ในเว็บไซต์ของหน่วยงานก่อนแล้วกดปุ่มไอคอน f จะทำให้ข้อมูลดังกล่าวเข้าใน Facebook ที่เปิดไว้ทันที ซึ่งมีวิธีการดังนี้
การแชร์บทความบนโซเชียลมีเดีย (Social Media)
1. เขียนบทความบนเว็บไซต์
2. ลงชื่อเข้าสู่ โซเชียลมีเดีย
3. แชร์เนื้อหา ที่อยู่บนเว็บไซต์ไปยังโซเชียลมีเดีย ที่ต้องการ มีอยู่สองวิธีการ คือ
3.1 Copy URL บทความบนเว็บไซต์ที่ต้องการแชร์ ลงใน โซเชียลมีเดียวาง URL ที่ Copy มาลงไปบนพื้นที่โพสบน โซเชียลมีเดีย จากตัวอย่างคือการโพสลงบน Facebook
เมื่อข้อความและรูปภาพประกอบปรากฏขึ้นดังภาพ ให้ลบ URL ออก และทำการพิมพ์ ชื่อเรื่องหรือข้อความที่ต้องการประชาสัมพันธ์แทนลงไป เนื่องจากชื่อเรื่องที่ปรากฏบน Facebook ถูกตัดทอนออกไป ทำให้ข้อความไม่ครบถ้วน
3.2 แชร์โดยการใช้ปุ่ม Share Content ที่ถูกติดตั้งไว้บนเว็บไซต์ จากหน้าบทความ
โดยส่วนมากจะปรากฏอยู่เริ่มต้นของบทความ และตอนท้ายของบทความ โดยถ้าผู้อ่านรู้สึกชอบบทความของเรา เขาสามารถที่จะกดแชร์ได้ง่ายหลังจากที่อ่านจบได้เลยโดยที่ไม่ต้องการ Copy URL โดยเลือกแชร์ ตามโซเชียลมีเดีย ที่ต้องการโดยสังเกตจาก Icon ดังภาพด้านล่าง
** หากเป็นการแชร์ไปยัง twitter แนะนำให้แชร์จากปุ่ม Share Content แทนการ Copy URL เนื่องจากการโพสบน Twitter มีการกำหนดความยาวอักษรไม่เกิน 140 ตัวอักษร
หรือหากต้องการแนบลิ้งก์ โดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แนะนำให้ทำการ Shorten URL หรือ การตัด URL ให้สั้นลง เพื่อประหยัดพื้นที่ในการโพส โดยขั้นตอนในการทำ Shorten URL มีดังนี้
1. เข้าเว็บไซต์ https://bitly.com
2. Copy URL ที่ต้องการทำ Shorten URL วางลงไปในช่อง และกดปุ่ม Shortenหลังจากนั้นจะปรากฏ Shorten URL ที่ได้ทำการตัดทอนให้เรียบร้อยแล้ว กดปุ่ม Copy และนำไปวางบน Twitter
เปรียบเทียบลิงค์ ก่อนและหลังการทำ Shorten URL
ก่อน
หลัง
ข้อควรตระหนักในการแชร์บทความ
1. แชร์บทความที่มีคุณภาพ มีประโยชน์กับผู้อ่าน หากเราไม่เขียนบทความที่มีคุณภาพ การแชร์บทความใดก็ไร้ความหมาย เนื่องจากไม่มีผู้อ่าน ฉะนั้น เนื้อหาบทความจึงเป็นหัวใจหลักของทั้งปวงก่อนที่จะการขั้นต่อไป
2. เลือกแชร์บทความในเว็บไซต์หรือกลุ่ม ที่เป็นที่นิยมในการเข้าชม
3. การนำลิ้งค์บทความไปแชร์ในกลุ่ม หรือในเพจ ควรเป็นกลุ่มที่นำเสนอหรือสนใจในเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของบทความที่เรานำเสนอ เช่นเนื้อหาบทความที่เรานำเสนอเป็นเรื่องเกี่ยวกับดนตรี กลุ่มหรือเพจควรมีความสนใจเกี่ยวกับเพลง หรือดนตรี ไม่ใช่สนใจเกี่ยวกับเรื่องอาหาร เป็นต้น หากแชร์ในกลุ่มที่ไม่มีความสนใจเหมือนกัน อาจส่งผลให้บุคคลในกลุ่มเกิดความรู้สึกติดลบกับบทความของท่าน หรือไม่เข้ามาอ่านบทความของท่านอีกเลย
4. ทำการแชร์บทความอย่างสม่ำเสมอ หรือทำทุกวัน
2. ผลการวัดสมรรถนะด้านการรู้ดิจิทัลให้กับนักศึกษาปีที่ 4
ศูนย์คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ดำเนินการอบรมและวัดสมรรถนะด้านการรู้ดิจิทัลให้กับนักศึกษาชั้นปี 4 ที่กำลังจะจบการศึกษา ในวันที่ 20-22 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยใช้เครื่องมือวัดสมรรถนะของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจลสังคมสร้างการพัฒนาหลักสูตรการพัฒนาทักษะดิจิทัลเบื้องต้น (Digital Literacy) โดยมีผู้เข้าสอบทั้งหมด 2,121 คน ผ่านเกณฑ์ 1,564 คน คิดเป็นร้อยละ 73.74 โดยผลการประเมินแยกตามรายคณะดังนี้
คณะ | เข้าสอบ | ผ่าน | ร้อยละ |
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ | 368 | 258 | 70.11 |
คณะวิทยาการจัดการ | 571 | 446 | 78.11 |
คณะวิทยาศาสตร์ | 467 | 368 | 78.80 |
คณะครุศาสตร์ | 469 | 357 | 76.12 |
คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม | 158 | 82 | 51.90 |
คณะเทคโนโลยีการเกษตร | 88 | 53 | 60.23 |
รวม | 2,121 | 1,564 | 73.74 |
หมายเหตุข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2563
3. ผลการสำรวจความพึงพอใจในการอบรมการใช้โปรแกรมการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ดาวน์โหลด